Close system และ KZM ตามที่เข้าใจ

       ก่อนจะเขียนตามความเข้าใจของตนเองนั้น ต้องบอกก่อนว่าคำว่า Close system และ KZM นั้นคุณต้านแห่ง มัดเล่ย์กรุ๊ป เป็นคนพูดถึงและเป็นระบบที่คุณต้านใช้อยู่โดยเฉพาะ KZM เป็นระบบที่คุณต้านใช้สะสมทุนในช่วงแรกๆ ส่วนคำว่า Close system ผมเพิ่งได้ยินเมื่อเร็วๆนี้
 
       การเทรดแบบ Close system คืออะไร แปลตามตัวง่ายๆ คือการเทรดในระบบปิด คำว่า ระบบปิดในที่นี้คือระบบเทรดที่จะไม่มีการเติมเงินเข้ามาในระบบอีกเลย นั่นหมายความว่าก่อนจะทำการเทรดตามระบบเราต้องมีการคำนวนไว้เรียบร้อยแล้วว่าระบบที่เราจะใช้เทรดนั้นต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ ระบบนี้เป็นระบบที่เน้นให้เราอยู่รอดในตลาดได้นานๆค่อยๆเก็บ cash flow(cf) จากการผันผวนของราคา ซึ่ง cf ที่ได้จากระบบเราก็จะแบ่งบางส่วนในการขยายพอร์ต หรือ ดึงเอาทุนออกมา หรือ เอาไป bet กับการเทรดที่ให้ผลตอบแทนเยอะๆ หรือจะทำทั้ง 3 อย่างเลยก็ได้แล้วแต่เราจะบริหาร cf ที่ได้จากระบบ หลักๆเลยน่าจะมีแค่นี้ ส่วนที่เหลือน่าจะเป็นปลีกย่อยที่ปรับให้เข้ากับเรา
      การเทรดในระบบ KZM  นั้น จะเป็นการเทรดแบบหนึ่งในระบบเทรดแบบ Close system โดยระบบเทรดแบบ KZM จะแบ่งเงินทุนออกเป็น 4กอง เรียกว่า กอง A , B , C , D ตามลำดับ

    กอง A จะเป็นการเทรดแบบแบ่งโซนเทรด โดยเราจะกำหนดขอบเขตของราคาของ asset ที่เราจะเทรดก่อน แบบดั้งเดิมนั้นเราต้องเผื่อจนถึงราคา 0 เลย เมื่อเราได้ขอบเขตของราคาแล้วเราก็จะแบ่งขอบเขตนั้นเป็นโซนย่อยๆตามเงินทุนที่เรามี เช่น สมมุติเรามองหุ้นตัวหนึ่งมีขอบเขตราคาที่ 0-15 บาท เราจะได้ขอบเขตการเทรดตั้งแต่ 0 ถึง 15 บาท ถ้าเรามีเงิน 20000 บาท เราก็จะแบ่งเป็นโซนย่อยได้ 15โซน คือ 0-1 , 1-2 , 2-3 ..... 14-15 โดยเราจะเข้าซื้อที่ราคาล่างของโซนและขายที่ราคาบนของโซน และกำหนดให้ซื้อโซนละ100หุ้น เพราะฉะนั้นเราจะใช้เงินประมาณ 10500 บาท เมื่อเราเริ่มซื้อครั้งแรก จะเป็นการซื้อรวบโซนด้านบน เช่น สมมุติว่าราคาปัจจุบันอยู่ที่  10 บาท เราก็จะซื้อทั้งหมด 5โซน คือ 10-11 , 11-12 , 12-13 , 13-14 , 14-15 เพราะฉะนั้นเราจะมีหุ้นที่อยูในโซนด้านบนทั้ง 5โซนแล้ว เมื่อเราซื้อครั้งแรกเสร็จแล้ว ถ้าราคาขึ้นไป 11 บาท เราก็ขายหุ้นในโซน 10-11 ออกมา และถ้ามันขึ้นไปเป็น 12 บาท เราก็ขายหุ้นในโซน 11-12 ออกมา ถ้ามันขึ้นมาที่ 12 บาทแล้วเราลงมาที่ 11 บาท เราก็ซื้อหุ้นกลับเข้าโซน 11-12 อีกครั้ง ทำไปเรื่อยๆ กอง A ก็จะสร้าง cf ให้เราอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องไปคาดเดาทิศทางของราคา    กอง A นี้หน้าที่หลักคือสร้าง cf  ให้เราไม่ว่าตลาดจะอยู่ในสภาพแบบใดก็ตามและที่สำคัญเป็นการฝึกให้เรามีวินัยในการเข้าออกออเดอร์โดยไม่คาดเดาราคา
   
      กอง B จะเป็นการเทรดโดยการฝึกการคาดเดาตลาด โดยเราจะเข้าออเดอร์เมื่อเรารู้สึกว่ามันน่าจะเข้าและออกเมื่อรู้สึกว่ามันน่าออก กอง B นี้ฝึกให้เรามองตลาดและทำการเทรดแบบเดย์เทรด กฏของการเข้าออกออเดอร์ของ กอง B คือ 1. จะไม่เปิดออเดอร์อยู่ในโซนเดียวกัน เช่น ถ้าเราซื้อหุ้นที่ราคา 11.5 แล้ว สำหรับกอง B จะไม่มีการซื้อซ้ำในโซนที่ 11-12 จนกว่า ออเดอร์ที่ซื้อไปนั้นจะถูกปิด  2.ไม่มีการคัทลอส จะปิดก็ต่อเมื่อมีกำไรเท่านั้น
      กอง C จะเป็นการเข้าออกตาม อินดิเคเตอร์ที่เราใช้ เช่น ใช้การตัดกันของค่าเฉลี่ย การเข้าออกของกอง C จะเป็นการเข้าออกตามสัญญาณอินดิเคเตอร์ที่เราใช้แต่มีข้อแม้ว่าถ้าขาดทุนเราจะยังไม่ปิดออเดอร์นั้นถึงแม้ว่าอินดิเคเตอร์จะให้สัญญาณก็ตาม
     กอง D จะเป็นการเข้าออกตามอินดิเคเตอร์เหมือนกอง C แต่เวลาออกให้เราตัดสินใจเองว่าจะออกตอนไหน ที่สำคัญต้องมีกำไรเท่านั้นถึงออก

คุณต้านได้สรุปทั้ง4กองไว้ดังนี้ครับ
A เป็นการฝึกวินัย
B
เป็นการฝึกสัญชาติญาณในการเทรด ในการหาจุดออกทำกำไร ใน Zone
C
เป็นการฝึกอ่านกราฟ เทคนิคคัล Skill รวมทั้ง Trading Skill
D
เป็นการฝึกสัญชาติญาณในการเทรด ในการหาจุดออกทำกำไร

เมื่อเราเทรดโดยการใช้ KZM มันก็เหมือนกับเป็นการฝึกเราแทบจะทุกด้านที่จำเป็นในการเทรด  ซึ่งเราสามารถมาดัดแปลง KZM แบบเดิมๆให้มาเป็น KZM แบบที่เหมาะสมกับเราก็ได้ เช่น เทรดแต่กอง A เพื่อสร้าง cf และสะสม asset นั้น เพื่อต่อยอดไปเป็น true alpha หรือ การกำหนดขอบเขตราคาให้แคบเข้ามาเพื่อรับความเสี่ยงที่สูงขึ้นซึ่งมาพร้อมกับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วย  ที่สำคัญอีกประการที่ขาดไม่ได้เลยคือการเลือก asset ที่เราจะใช้ทำ KZM เพราะการเทรดแบบ KZM เราจะอยู่กับ asset ตัวนั้นนานมากและเป็นการสะสม asset  ดังนั้น asset ที่นำมาเทรดควรเป็น asset ที่ไม่มีโอกาสเป็น 0 จะเหมาะสมที่สุด

ปล.ลิงค์แนวคิดเกี่ยวกับ KZM ฉบับเต็ม
KZM ฉบับเติม
Close system โดย มาร์แว่น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ว่าด้วยเรื่องของความเสี่ยงตามที่เข้าใจ

การนำ short put option มาใช้ร่วมกับ close system