การนำ short put option มาใช้ร่วมกับ close system
สมมุตินะครับ สมมุติ ตัวเลขต่างๆเป็นตัวเลขสมมุติเพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
.
ตอนนี้ราคาทองอยู่ที่ 1200เหรียญต่อออนซ์
.
ผมอยากซื้อทองที่ราคา 1000 เหรียญต่อออนซ์ ดังนั้นผมจึงเตรียมเงินไว้ 1000เหรียญเพื่อรอซื้อที่ราคา 1000เหรียญต่อออนซ์
.
กรณีที่1. 2เดือนต่อมาราคาลงมาที่ 1000 เหรียญต่อออนซ์ ผมจึงเข้าซื้อตามเป้าที่วางไว้ เพราะฉะนั้น ทองที่ผมซื้อไว้จะมีต้นทุนอยู่ที่ 1000เหรียญ อีก1เดือนต่อมา ราคามันลงไปที่ 800 ออเดอร์นี้ก็ยังมีต้นทุนที่ 1000เหรียญเหมือนเดิม ถ้ามองในแง่กำไรขาดทุนผมจะขาดทุน 200เหรียญ
.
กรณีที่2. ผม short put@1000 ขนาด 1 ออนซ์ ได้พรีเมี่ยม 10 เหรียญ อายุ 3เดือน พอครบกำหนด 3เดือน ปรากฎว่าราคาลงไปที่ 800 จะเกิดเหตุการณ์ดังนี้
2.1ผู้ซื้อput ผมไปใช้สิทธิ์ขายทองให้ผมที่ราคา 1000 ตามที่สัญญากันไว้ ทำให้ผมต้องซื้อทองที่ราคา 1000 ดังนั้น ออเดอร์นี้ผมจึงมีต้นทุนอยู่ที่ 1000 เหรียญถึงแม้ราคาตลาดจะลงไปที่ 800 ก็ตาม แต่ เนื่องจากผมได้พรีเมี่ยมจากการขายมาแล้ว 10 เหรียญ ดังนั้น ถ้ามองในแง่กำไรขาดทุน ผมจะขาดทุน (1000-800)-10=190เหรียญ
2.2ผู้ซื้อputผมจะเอาเงินส่วนต่างเลยไม่มีทองให้ ดังนั้นผมจึงต้องจ่ายเงินสดให้ผู้ซื้อไป 1000-800=200 เหรียญ ผมก็จะเหลือ 800 ผมก็เอาเงินนี้มาซื้อทองตอนนั้นเลยที่800 ถามว่าออเดอร์นี้ผมมีต้นทุนเท่าไหร่ ออเดอร์นี้ผมมีต้นทุน 800+200(ที่จ่ายให้ผู้ซื้อput)= 1000 เหรียญ ถ้ามองในแง่กำไรขาทุนผมจะขาดทุน 200(ที่ต้องจ่ายให้ผู้ซื้อ)-10(พรีเมี่ยมที่ได้จากการขาย)=190เหรียญ
.
ทั้งหมดที่ผมกล่าวมาจะเห็นว่า ทุกกรณีผมมีต้นทุนเท่ากันหมดคือ 1000เหรียญ แต่ในกรณีที่ผมshort put จะขาดทุนน้อยกว่าซื้อปกติ
.
ทั้งหมดพยายามเขียนให้เข้าใจง่ายๆถึงแนวคิดในการ short put ในกรณีที่เราทำ cs อยู่ แน่นอนมันอาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันบ้าง
.
ส่วนคำถามต่างๆเช่นถ้ามันลงทำไมเราไม่ไปรอซื้อที่ราคาถูกๆล่ะ อันนี้สำหรับผมขอตอบว่า ผมไม่รู้ว่ามันจะขึ้นหรือลง แต่ผมวางแผนไว้แล้วว่าผมจะซื้อที่ราคานี้ผมก็ทำตามแผนแค่นั้นเองส่วนมันจะกำไรหรือขาดทุนก็ให้เป็นไปตามสภาพของตลาด ผมแค่วางแผนไว้ว่าถ้ามันลง จุดไหนที่ผมจะซื้อ ถ้ามันขึ้นจุดไหนที่ผมจะขาย ทำตามแผนไปเรื่อยๆ เบื้องต้นมันก็แค่นั้นเอง
.
ตอนนี้ราคาทองอยู่ที่ 1200เหรียญต่อออนซ์
.
ผมอยากซื้อทองที่ราคา 1000 เหรียญต่อออนซ์ ดังนั้นผมจึงเตรียมเงินไว้ 1000เหรียญเพื่อรอซื้อที่ราคา 1000เหรียญต่อออนซ์
.
กรณีที่1. 2เดือนต่อมาราคาลงมาที่ 1000 เหรียญต่อออนซ์ ผมจึงเข้าซื้อตามเป้าที่วางไว้ เพราะฉะนั้น ทองที่ผมซื้อไว้จะมีต้นทุนอยู่ที่ 1000เหรียญ อีก1เดือนต่อมา ราคามันลงไปที่ 800 ออเดอร์นี้ก็ยังมีต้นทุนที่ 1000เหรียญเหมือนเดิม ถ้ามองในแง่กำไรขาดทุนผมจะขาดทุน 200เหรียญ
.
กรณีที่2. ผม short put@1000 ขนาด 1 ออนซ์ ได้พรีเมี่ยม 10 เหรียญ อายุ 3เดือน พอครบกำหนด 3เดือน ปรากฎว่าราคาลงไปที่ 800 จะเกิดเหตุการณ์ดังนี้
2.1ผู้ซื้อput ผมไปใช้สิทธิ์ขายทองให้ผมที่ราคา 1000 ตามที่สัญญากันไว้ ทำให้ผมต้องซื้อทองที่ราคา 1000 ดังนั้น ออเดอร์นี้ผมจึงมีต้นทุนอยู่ที่ 1000 เหรียญถึงแม้ราคาตลาดจะลงไปที่ 800 ก็ตาม แต่ เนื่องจากผมได้พรีเมี่ยมจากการขายมาแล้ว 10 เหรียญ ดังนั้น ถ้ามองในแง่กำไรขาดทุน ผมจะขาดทุน (1000-800)-10=190เหรียญ
2.2ผู้ซื้อputผมจะเอาเงินส่วนต่างเลยไม่มีทองให้ ดังนั้นผมจึงต้องจ่ายเงินสดให้ผู้ซื้อไป 1000-800=200 เหรียญ ผมก็จะเหลือ 800 ผมก็เอาเงินนี้มาซื้อทองตอนนั้นเลยที่800 ถามว่าออเดอร์นี้ผมมีต้นทุนเท่าไหร่ ออเดอร์นี้ผมมีต้นทุน 800+200(ที่จ่ายให้ผู้ซื้อput)= 1000 เหรียญ ถ้ามองในแง่กำไรขาทุนผมจะขาดทุน 200(ที่ต้องจ่ายให้ผู้ซื้อ)-10(พรีเมี่ยมที่ได้จากการขาย)=190เหรียญ
.
ทั้งหมดที่ผมกล่าวมาจะเห็นว่า ทุกกรณีผมมีต้นทุนเท่ากันหมดคือ 1000เหรียญ แต่ในกรณีที่ผมshort put จะขาดทุนน้อยกว่าซื้อปกติ
.
ทั้งหมดพยายามเขียนให้เข้าใจง่ายๆถึงแนวคิดในการ short put ในกรณีที่เราทำ cs อยู่ แน่นอนมันอาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันบ้าง
.
ส่วนคำถามต่างๆเช่นถ้ามันลงทำไมเราไม่ไปรอซื้อที่ราคาถูกๆล่ะ อันนี้สำหรับผมขอตอบว่า ผมไม่รู้ว่ามันจะขึ้นหรือลง แต่ผมวางแผนไว้แล้วว่าผมจะซื้อที่ราคานี้ผมก็ทำตามแผนแค่นั้นเองส่วนมันจะกำไรหรือขาดทุนก็ให้เป็นไปตามสภาพของตลาด ผมแค่วางแผนไว้ว่าถ้ามันลง จุดไหนที่ผมจะซื้อ ถ้ามันขึ้นจุดไหนที่ผมจะขาย ทำตามแผนไปเรื่อยๆ เบื้องต้นมันก็แค่นั้นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น