ทำไมเฟดถึงขึ้นดอกเบี้ย ?
ได้ดูคลิปคุณต้าน หัวข้อ bigshort from มาเก๊า เลยสรุปตามความเข้าใจของตัวเองได้ดังนี้
- เมื่อเกิดซัพไพร์มขึ้น สภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจได้ลดลงไปมากจากการที่สินทรัพย์ต่างๆมีราคาลดลงมาก
-เฟด อัดเงินจำนวนมาก(QE)เข้าระบบผ่านแบงค์เพราะ1.แบงค์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการกระจายสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจอยู่แล้ว 2.แบงค์กำลังมีปัญหาสภาพคล่องและ 3.ถ้าอัดเข้าระบบเศรษฐกิจโดยตรงจะทำให้ภาคการผลิตที่แท้จริงโตไม่ทันปริมาณเงินที่ใส่เข้ามาในระบบผลคือจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อขึ้นมาได้เพราะปริมาณเงินมันมากกว่าสินค้าที่ผลิตได้มาก
-แบงค์มองเห็นว่าเศรษฐกิจยังมีปัญหาโดยดูจากตัวเลขการว่างงานจึงนำเงินที่ได้ไปซื้อสินทรัพย์ต่างๆที่ราคาถูก แทนที่จะนำไปปล่อยเข้าสู้ระบบเศรษฐกิจที่แท้จริง
-สินทรัพย์ต่างๆจึงมีราคาสูงขึ้นตลอดช่วงเวลาที่แบงค์ซื้อสินทรัพย์
-สินทรัพย์ต่างๆนอกจากแบงค์แล้วยังมีคนบางส่วนที่ยังถือครองสินทรัพย์ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น เมื่อราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้น คนส่วนนั้นก้อจะมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเช่นกัน
-เมื่อความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นคนบางส่วนจะขายสินทรัพย์บางส่วนเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายทำให้เกิดเม็ดเงินทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริง ภาคการผลิตจึงค่อยๆโตขึ้นตามเม็ดเงินที่ทยอยเข้ามาในระบบ
-เมื่อราคาสินทรัพย์สูงขึ้นมากๆแล้วและเศรษฐกิจที่แท้จริงเริ่มโตขึ้น เฟดมองว่าจะเกิดการขายสินทรัพย์ออกมาและปริมาณเงินจำนวนมากจะไหลกลับเข้ามสู่ระบบจนทำให้ภาคการผลิตโตไม่ทัน ก้อจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อขึ้น
-เฟดจึงขึ้นดอกเบี้ยและประกาศแผนการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินบางส่วนจากการขายสินทรัพย์ไม่ให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริงทั้งหมด แต่ให้ค่อยๆทยอยเข้า
-ปัญหาคือ เฟดจะสามารถควบคุมปริมาณเงินมหาศาลที่ตัวเองปล่อยออกมาให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างเหมาะสมทั้งปริมาณและเวลาได้หรือไม่
-เพราะฉะนั้น วิกฤตครั้งต่อไปถ้ามันจะเกิดขึ้นก้อคือวิกฤตเงินเฟ้อซึ่งจะเกิดเมื่อเฟดไม่สามารถควบคุมปริมาณมหาศาลเหล่านั้นได้
-ซึ่งเงินเฟ้อจะทำให้อำนาจการซื้อ(purchaing power)ของเราลดลง
-เราจึงต้องหาวิธีป้องกันอำนาจซื้อของเราให้ได้
รูปภาพคือการอธิบายการทำ QE ของธนาคารกลางของอังกฤษ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปล. ส่วนเรื่องค่าเงินญี่ปุ่นที่แข๊งขึ้นเกิดจากการคืนเงินที่กู้ยืมมาประมาณนั้น ในส่วนนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ไม่ขอสรุปดีกว่า
-เพิ่มเติม การใช้กราฟ ควรจะใช้ในการมอนิเตอร์ราคาไม่ใช่ใช้ในการคาดการณ์ราคา คือ เอาไว้วางแผนหรือกลยุทธ์ในการเทรด ซึ่งเฮจด์ฟันด์จะใช้กราฟในการมอเตอร์จุดของราคาที่ตนเองสนใจในการเริ่มกลยุทธ์ในการเทรดเนื่องจากเฮจด์ฟันด์มักจะไม่ได้เทรดแบบ direction bet
- เมื่อเกิดซัพไพร์มขึ้น สภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจได้ลดลงไปมากจากการที่สินทรัพย์ต่างๆมีราคาลดลงมาก
-เฟด อัดเงินจำนวนมาก(QE)เข้าระบบผ่านแบงค์เพราะ1.แบงค์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการกระจายสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจอยู่แล้ว 2.แบงค์กำลังมีปัญหาสภาพคล่องและ 3.ถ้าอัดเข้าระบบเศรษฐกิจโดยตรงจะทำให้ภาคการผลิตที่แท้จริงโตไม่ทันปริมาณเงินที่ใส่เข้ามาในระบบผลคือจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อขึ้นมาได้เพราะปริมาณเงินมันมากกว่าสินค้าที่ผลิตได้มาก
-แบงค์มองเห็นว่าเศรษฐกิจยังมีปัญหาโดยดูจากตัวเลขการว่างงานจึงนำเงินที่ได้ไปซื้อสินทรัพย์ต่างๆที่ราคาถูก แทนที่จะนำไปปล่อยเข้าสู้ระบบเศรษฐกิจที่แท้จริง
-สินทรัพย์ต่างๆจึงมีราคาสูงขึ้นตลอดช่วงเวลาที่แบงค์ซื้อสินทรัพย์
-สินทรัพย์ต่างๆนอกจากแบงค์แล้วยังมีคนบางส่วนที่ยังถือครองสินทรัพย์ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น เมื่อราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้น คนส่วนนั้นก้อจะมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเช่นกัน
-เมื่อความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นคนบางส่วนจะขายสินทรัพย์บางส่วนเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายทำให้เกิดเม็ดเงินทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริง ภาคการผลิตจึงค่อยๆโตขึ้นตามเม็ดเงินที่ทยอยเข้ามาในระบบ
-เมื่อราคาสินทรัพย์สูงขึ้นมากๆแล้วและเศรษฐกิจที่แท้จริงเริ่มโตขึ้น เฟดมองว่าจะเกิดการขายสินทรัพย์ออกมาและปริมาณเงินจำนวนมากจะไหลกลับเข้ามสู่ระบบจนทำให้ภาคการผลิตโตไม่ทัน ก้อจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อขึ้น
-เฟดจึงขึ้นดอกเบี้ยและประกาศแผนการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินบางส่วนจากการขายสินทรัพย์ไม่ให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริงทั้งหมด แต่ให้ค่อยๆทยอยเข้า
-ปัญหาคือ เฟดจะสามารถควบคุมปริมาณเงินมหาศาลที่ตัวเองปล่อยออกมาให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างเหมาะสมทั้งปริมาณและเวลาได้หรือไม่
-เพราะฉะนั้น วิกฤตครั้งต่อไปถ้ามันจะเกิดขึ้นก้อคือวิกฤตเงินเฟ้อซึ่งจะเกิดเมื่อเฟดไม่สามารถควบคุมปริมาณมหาศาลเหล่านั้นได้
-ซึ่งเงินเฟ้อจะทำให้อำนาจการซื้อ(purchaing power)ของเราลดลง
-เราจึงต้องหาวิธีป้องกันอำนาจซื้อของเราให้ได้
รูปภาพคือการอธิบายการทำ QE ของธนาคารกลางของอังกฤษ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปล. ส่วนเรื่องค่าเงินญี่ปุ่นที่แข๊งขึ้นเกิดจากการคืนเงินที่กู้ยืมมาประมาณนั้น ในส่วนนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ไม่ขอสรุปดีกว่า
-เพิ่มเติม การใช้กราฟ ควรจะใช้ในการมอนิเตอร์ราคาไม่ใช่ใช้ในการคาดการณ์ราคา คือ เอาไว้วางแผนหรือกลยุทธ์ในการเทรด ซึ่งเฮจด์ฟันด์จะใช้กราฟในการมอเตอร์จุดของราคาที่ตนเองสนใจในการเริ่มกลยุทธ์ในการเทรดเนื่องจากเฮจด์ฟันด์มักจะไม่ได้เทรดแบบ direction bet
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น